คุณกำลังมองหาอะไร?

นุนแม่บ้านหญิงตั้งครรภ์ แกนนำบริโภคสารไอโอดีน

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

01.08.2556
0
0
แชร์
01
สิงหาคม
2556

หนุนแม่บ้านหญิงตั้งครรภ์ แกนนำบริโภคสารไอโอดีน

 

          โรคขาดสารไอโอดีนมีผลทำให้เกิด อาการ คอพอก, ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ, โรคเอ๋อ ซึ่งทำให้ระดับสติปัญญาพัฒนาด้อยกว่าปกติ และมีพัฒนาการทางร่างกายต่ำกว่าเกณฑ์ ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐ โดยกรมอนามัยจึงได้รณรงค์ให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่ม แม่บ้าน ซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหารการกินและกลุ่มหญิงตั้งครรภ์หันมาเป็นแกนนำและ บริโภคสารไอโอดีน
          นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และ อดีต รมช.กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย ในกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร "สติปัญญา สร้างชาติ คนน่านไม่ขาดไอโอดีน" ณ จังหวัด น่าน ว่า จังหวัดน่านได้ดำเนินการป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนมาเป็นระยะเวลานานและมีแนว โน้มดีขึ้น ซึ่งนอกจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนแล้ว การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาผ่านกระบวนการชุมชนและหมู่บ้าน ไอโอดีน ถือเป็นการวางรากฐานที่สำคัญในการดูแลสุขภาพของตนเอง ซึ่งก้าวต่อไปของจังหวัดน่าน คือ การยกระดับชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีน จำนวน 300 แห่ง ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีน และภายในปี 2558 จังหวัดน่านจะประกาศเป็น จังหวัดไอโอดีนต้นแบบ แหล่งเรียนรู้ด้านการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนสู่ความยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี"
          นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การพัฒนาสุขภาพอนามัยของประชาชนกลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไปไม่ให้เป็นโรค ขาดสารไอโอดีนถือเป็นภารกิจสำคัญของกรมอนามัย ทั้งนี้มาตรการหลักที่กระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายนำมาใช้ในการควบคุม ป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน คือส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายเกลือเสริมไอโอดีนถ้วนหน้า ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัย ประหยัด และต้นทุนการเสริมไอโอดีนในเกลือต่ำมาก เพียง 1.30 บาทต่อคนต่อปี
          จากการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดให้เกลือบริโภค น้ำปลา น้ำเกลือปรุงอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถั่วเหลือง เช่น ซอส ซีอิ๊ว ต้องเติมไอโอดีน ส่วนมาตรการเสริม คือ การจ่ายยาเม็ดเสริมไอโอดีนให้หญิงตั้งครรภ์ทุกรายตลอดการตั้งครรภ์และขณะ เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 6 เดือน การเสริมไอโอดีนในน้ำดื่ม ในพื้นที่ทุรกันดารตามโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร
          ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และการขับเคลื่อนให้ทุกชุมชนและหมู่บ้าน จำนวน 77,373 แห่ง เป็นชุมชนและหมู่บ้านไอโอดีน ซึ่งปัจจุบันดำเนินการทั้งสิ้น 38,663 แห่ง และจากการดำเนินงาน ตามมาตรการดังกล่าว ส่งผลให้ประชากรกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ทารก เด็กปฐมวัย และเด็กวัยเรียน ลดโอกาส เสี่ยงต่อการเกิดโรคขาดสารไอโอดีน ได้ประมาณ ปีละ 14 ล้านคน"


ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน